วันพุธที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

อุบัติเหตุครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เกิดกับครอบครัวผม

อุบัติเหตุครั้งแรกได้กล่าวถึงไปใน Thread ก่อนหน้านั้น แล้วนะครับ
แต่มาวันนี้ซึ่งเป็นวันแรกในรอบหลายเดือนที่ต้องนั่งรถเมล์ไปทำงาน
ไปประชุมตอนเช้าได้ครึ่งวัน พอพักเที่ยงกำลังกินข้าวอยู่ดีๆก็มีเรื่องให้กินข้าวไม่ลง
อยู่เสียงโทรศัพทย์ก็๋ดัง น้องชายสุดที่รักผู้ซึ่งสร้างวีรกรรมไว้กับรถผมเมื่อ 2 วันก่อนโทรมานั่นเอง
เสียงแรกที่ได้ยินคือ "เฮียบอย รถชนอีกแล้ว !!!"

กรูอึ้งไปสามวินาที แล้วนึกขึ้นในใจว่า แสรดเอ้ยอีกแล้วหรอวะ
จากนั้นก็ขอเคลียร์กับคู่กรณี อยากให้เขาช่วยแก้ไขเหตุการณ์ให้เป็นฝ่ายเขาเบรกกะทันหัน
แล้วน้องผมเบรกไม่ทันเลยชนท้ายรถเขา เพื่อจะได้เคลมทั้ง 2 ฝ่ายแล้วน้องผมก็จะจ่ายเงินค่าเสียเวลาและค่าเสียประวัติให้เขา ซึ่งตอนแรกเขาก็ยินยอมและสัญญาว่าจะช่วย เพราะของเขาเป็นประกันชั้น 1 ยี่ห้อ ...โมโต (โนเนมเหี้ยๆ แต่ของน้องกรูเหี้ยกว่าประกันก็ไม่มี)

แต่ความเป็นจริงก็คือน้องผมผิดเต็มๆ เพราะดันขับรถไม่มองด้านหน้า มัวแต่มองด้านซ้ายเพื่อจะเปลี่ยนเลน
ตอนแรกคู่กรณีเขาก็เต็มใจจะช่วย แต่พอประกันมา มันไม่พูดไม่จา เดินถ่ายรูปรถท่าเดียว (ตอนนั้นเลื่อนรถไปจอดริมข้างทางแล้วเพราะกีดขวางถนน) พอน้องผมพยายามไปขอเคลียร์มันบอกคำเดียว "ไปคุยที่โรงพัก ยังไงคุณก็ผิดเต็มๆ" (เออกรูผิด ! กรูรู้ครับท่าน)

จากนั้นมันยังมาขู่น้องผมอีกว่า "สภาพแบบนี้ค่าเสียหาย 25,000 บาท" (ขอโทษนะครับพี่ชิ้นส่วนที่เสียหายมีแค่ 2 ชิ้น คือ กันชนท้ายกับสเกิร์ตท้ายของรุ่น VIOS Trd Sportivo กรูเช็คราคากับ Toyota Seller มาแล้วไม่เกิน 15,000 บาท ไอแสรดดดดดดดดดดดดด)
แถมยังไปขู่คู่กรณีอีกว่าถ้าเขาช่วยน้องผมเขาต้องจ่ายค่าซ่อมเอง (ไอแสรดดดด ชั้น 1 บ้านพ่องไม่รับผิดชอบรถตัวเอง อันนั้นมันชั้น 3 แล้วครับบักหำ)

สุดท้ายพอคู่กรณีเจอประกันขู่มากๆเข้าก็กลัวแล้วก็เลิกช่วยน้องผมสร้างสถานการณ์ ทุกอย่างก็เลยจบกัน !
ไปเคลียร์ต่อที่โรงพักพร้อมจ่ายค่าปรับ 400 บาทข้อหาขับรถโดยประมาทแล้วก็ลงบันทึกประจำวัน เพื่อเอาไว้เป็นหลักฐานสำหรับเรียกร้องค่าเสียหายจากน้องกรูต่อไป

เหตุเกิดด้วยประการ ฉ นี้ ขอให้เพื่อนๆที่เข้ามาอ่านได้รับบทเรียนดังต่อไปนี้
  1. ขับรถกรุณามองด้านหน้าเสมอ จะมองข้างให้เหล่ตาเอานะคร๊าบบบบบ
  2. อย่าไปเสียเวลาเถียงประกัน ถ้าเราเป็นฝ่ายผิด เพราะจะเสียเวลาเปล่า (กรูมันหน้าด้าน รู้ว่าไม่มีประโยชน์ยังทำ)
  3. ถ้าเกิดเหตุแบบกรณีนี้ 2 อุบัติเหตุในรอบ 3 วัน กรุณาไปฝึกขับรถใหม่เถอะครับ เป็นอันตรายทั้งต่อตนเองและผู้อื่นอย่างมาก
สรุปแล้วที่กรูมาบ่นนี่ เพื่อระบายอารมณ์ไปงั้นแหละ ขอจบแต่เพียงเท่านี้

ปล. วันนี้กรูเดินทางด้วยรถเมล์จากบ้านที่มีนบุรีไปทำงานที่แบ๊งค์ชาติ ใช้เวลาเดินทางขาไปทั้งหมด 4 ชั่วโมง (6.00 - 10.00 น.) ขอให้มีความสุขกับการนั่งรถเมล์ในประเทศนะคร๊าบบบบบบบบบบบบบบบบบ

วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ครั้งแรกกับการกระแทก Airbag ด้วยการเป็นฝ่ายผิด

วันนี้ตื่นแต่เช้า รีบออกไปซื้อกระดาษ ฟองน้ำกันกระแทก เตรียมไปส่งของให้ลูกค้า
พอทำทุกอย่างเสร็จ ก็เดินทางออกจากบ้าน
แวะซื้อกาแฟที่โรงพยาบาลสินแพทย์
จากนั้นก็ให้ไอน้องรัก(ไอแบงค์) ขับรถไปร้านโก๊ะตี๋ข้าวมันไก่ กะว่าวันนี้จะได้ชิมดูว่ามันอร่อยจริงอย่างที่มาออก SME ตีแตกหรือเปล่า
ยังไม่ทันพ้น กม.7 ไอแบ๊งค์มันก็หันไปมองรถกระบะ TATA ติดหลังคา Fiber หลัง (เจือกไม่มองทาง แสรดดดดดดดดดดดดดดดดด)
หันมาอีกที ตู้มมมมมม !!!
ชนท้ายพี่ Taxi ไปเต็มๆ จนพี่เขาเบรกไม่อยู่เด้งไปชน Mitsubishi Spacewagon อีกคัน
ยังดีที่ Airbag ทำงาน กลิ่นแก๊สออกมาจาก Airbag เต็มๆ เลยทำให้รู้ว่าข้างใน Airbag มันทำการระเบิดออกมาด้วยแก๊สนั่นเอง
เป็นครั้งแรกที่ได้ลิ้มรสการกระแทกกับ Airbag เต็มๆ นี่ถ้า Airbag ไม่ทำงานหัวกรูคงไปกระแทก Console เต็มๆ อาจจะเอ๋อไปแล้ว คงไม่ได้มานั่งบ่นในนี้


สุดท้ายเรียกประกันมา ระหว่างรออยู่กลางถนนฝนก็เสือกตกอีก ไม่หนำใจพี่ตำรวจมาด่ากรูอีกว่าทำไมไม่เรียกรถยก กรูบอกว่าแจ้งประกันไปแล้ว แม่งบอกให้กรูเรียกรถยกไปอีกไม่ต้องรอประกัน
กรูไม่รู้จะเถียงยังไง ก็เลยโทรไป Nissan Road Assistance เขาบอกว่ากรณีอุบัติเหตุให้ประกันเรียกเอาเองไม่งั้นคนเรียกต้องเสียค่าใช้จ่าย พี่หัวปิงปองแกก็ไม่ฟังสุดท้ายโทรไปเรียกรถยกของแกมาซ้ำซ้อนกับของกรู


จากนั้นนั่งรถรถยกอีกประมาณเกือบชั่วโมง กว่าจะยกรถไปอู่แถวนวมินทร์ได้
พอไปถึงอู่ดูสภาพรถตัวเองข้างนอกยังดูโอเคแต่ตรง Console รถแม่งระเบิดออกมาหมดไหนจะคราบกาแฟเต็มรถไปหมด ไม่เว้นแม้กระทั่งหลังคารถที่เป็นกำมะหยี่ เช็ดโคตรยากเลยแสรดดดดดดดดดดดดด


รอพนักงานอู่รถออกใบรับรถให้ ไหนๆก็ต้องเปลี่ยนกันชนเปลี่ยนไฟหน้าแล้ว บอกพี่เขาว่าขอเป็นรุ่น Minor Change เลยแล้วกัน โลภไปไหมเนี่ยกรู พี่เขาก็บอกเดี๋ยวดูก่อน กรูก็ทำใจรับใบเคลมมา
จากนั้นเดินออกมาจากซอย อู่แม่งอยู่ลึกมากอะแสรดดดดดดดดดด เดินมาตั้งไกลพร้อมแบกของพะรุงพะรัง ไม่น่าเก็บของไว้ในรถเยอะเลย เซ็งแสรดดดดดดดดดด
จะเดินออกมาหาข้าวกินก็ไม่มีร้านไหนเปิด เลยไม่กินแม่งแล้วววววว

สุดท้ายพี่น้องสามคนนั่ง Taxi กลับบ้านด้วยความเซ็ง ตอนอยู่บนรถแต่ละคนก็เซ็ง ร้อน โมโห กรูก็เลยเอ่ยปากเลยว่า ค่าเสียหายส่วนแรก 5000 บาทที่ต้องจ่ายตอนรับรถจะเอายังไง เถียงกันอยู่แปบนึง
สรุปได้ว่า
  • กรูจ่าย 2000 บาท เนื่องจากเป็นเจ้าของรถ
  • ไอแบ๊งค์จ่าย 1500 บาทเนื่องจากขับรถโดยประมาท
  • เฮียเบนซ์จ่าย 1500 บาทเนื่องจากเดินทางมาด้วยกัน ต้องโดนจับหารเพราะกรูไม่มีตังคร๊าบบบบบบ


มาถึงบ้านด้วยความเซ็ง แล้วก็มานั่งบ่นใน Blog กับใน Facebook ว่าต้องรอซ่อมรถอีกเกือบๆ 2 เดือนแน่ะ แสรดดดดดดดดดด

สุดท้ายนี้กรูก็จะขอจบการบ่นไปห้วนๆแบบนี้แหละ เซ็งโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

มี Blog เป็นของตัวเองแล้วนะจ๊ะ

ประเดิมเปิด Blog วันแรกกันเลยทีเดียว
เป้าหมายของ Blog ก็คงเป็นการบันทึกเรื่องราวต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเรา
รวมถึงพวกความรู้ต่างๆที่ได้รับมาหรือเข้าใจมา อาจจะมีถูกบ้างผิดบ้างก็ต้องขออภัยผู้ที่หลงเข้ามาอ่านมา ณ ที่นี้

เพื่อนๆท่านใด อยากจะติ ชม ด่า หรือว่า ผมก็เชิญตามสบายนะครับ เพราะว่าผมไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใดนะครับ ฮ่าๆ (แถวบ้านเรียกว่าหน้าด้าน)

สุดท้ายนี้ขอให้เพื่อนๆเชิญ เข้ามาหาความสนุก ความรู้ ความมันส์ ได้นับจากนี้ ต่อไปเบื้องหน้านะคร๊าบบบบบบบบบบ